Thursday, July 15, 2010

Shooting Mode : โหมดการถ่ายภาพแบบต่างๆ


ได้กล้องมาใหม่ มือใหม่หลายคนทำหน้างงๆ ว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหนดี แน่ละเริ่มที่ปุ่มชัตเตอร์ก่อนเลย ว่าแล้ว ก็กดแชะ! เข้าให้ อืมม..แล้วไงต่อ?

กล้อง DSLR มีสองส่วนหลักสำหรับปรับตั้งก่อนการถ่ายภาพที่จำเป็น นั่นก็คือ “สปีดชัตเตอร์” และ “รูรับแสง” ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ส่งผลต่อการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก อย่างที่เราเคยเล่นกับ TurnPro ไปเมื่อตอนเรื่องแรกๆ (ใคร ยังไม่เคยเล่นรีบดาวน์โหลดมาทำความเข้าใจซะ!)ซึ่งโหมดถ่ายภาพที่กล้องจัดเตรียมมาให้เราก็เพื่อความสะดวกใน
การควบคุมทั้งสองปัจจัยหลักนี่แหละ เราลองมาดูกันครับว่าจะต้องทำความเข้าใจและใช้มันยังไง?

โหมดแรกสุดคือ “Full Auto” คืออัตโนมัติแบบเต็มสูบ มักจะแสดงด้วย “Auto” หรือรูปสี่เหลี่ยมสีเขียว ในโหมด นี้กล้องจะจัดการทุกอย่างให้หมด แค่กดชัตเตอร์เท่านั้นเองที่เราต้องทำ อย่าได้ดูถูกมันเชียวในสถานการณ์ที่ต้องการ ความรวดเร็วสูง แค่เล็งแล้วกด โหมดนี้จะช่วยเราได้มากก็เช่นภาพข่าว, ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ตากล้องไม่ต้องคิดอะไร
มาก คิดแค่ว่าต้องได้ภาพที่ดูได้เท่านั้นแล้วก็กดชัตเตอร์เลย...กล้องจัดให้ โหมดต่อมา “P” ซึ่งย่อมาจากคำว่า
Program นี่ก็อัตโนมัติเต็มระบบเช่นกัน เพียงแต่ว่าตากล้องยังสามารถปรับค่าต่างๆ เพิ่มได้ตามต้องการอีก หรือถ้า ไม่ต้องการปรับอะไรก็ถ่ายภาพได้เลย

นี่ก็ดูถูกไม่ได้เช่นกันครับ เพราะเหตุการณ์บางอย่างไม่รอให้เราปรับนู่นปรับนี่เพิ่มเติมได้ แต่บางอย่างก็อาจจะ ยังพอปรับได้ ในการบันทึกภาพบางประเภทอาจไม่ได้เน้นสวยงาม แต่เน้นการได้ภาพมากกว่า อย่างภาพข่าวหรือ ภาพสัตว์เพื่อการศึกษาเป็นต้น ที่มักต้องการความรวดเร็ว ไม่คิดมาก

ข้ามปรู๊ดไปที่โหมด “M” ซึ่งก็มาจาก “Manual” ต่างจากทั้งสองโหมดโดยสิ้นเชิง โดยในโหมดนี้ตากล้องต้องปรับตั้งรูรับแสงและสปีดชัตเตอร์เองทั้งหมดซึ่งใน โหมดนี้ควรต้องมีประสบการณ์ในการควบคุมกล้องอยู่สักหน่อย จึงจะได้ภาพออกมาดี เพราะถ้าไม่รู้หลักการการทำงานของกล้องแล้ว ต้องอาศัยลูกฟลุ๊ค (ซึ่งเกิดได้ยาก) อย่าง เดียวถึงจะได้ภาพที่ดีออกมา เล่นลูกเล่นได้สารพัด

สรุปว่าโหมด M นี่เป็นของยากพอสมควรสำหรับมือใหม่ ลองฝึกและเรียนรู้จากโหมดอื่นๆ ก่อนก็จะเป็นการดี




โหมด Tv,S เป็นโหมดที่ตากล้องเป็นผู้ปรับเลือกสปีดชัตเตอร์ และกล้องจะเลือกรูรับแสงที่เหมาะสม
กับสภาพแสงให้เอง

เพราะโหมดนี้เราเป็นผู้เลือกสปีดชัตเตอร์เอง นั่นย่อมหมายความว่าน่าจะเป็นการถ่ายภาพของสิ่งที่มีการ เคลื่อนที่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว และการที่กล้องจะเลือกรูรับแสงที่เหมาะสมให้ก็แสดงว่าตากล้องไม่ต้องพะวงกับเรื่อง การปรับตั้งรูรับแสง สนใจแค่การจัดองค์ประกอบภาพและสปีดชัตเตอร์ที่เหมาะกับสภาพของวัตถุที่จะถ่าย ในกรณี นี้ยกตัวอย่าง เช่น การถ่ายภาพรถ, ถ่ายภาพนกที่กำลังบิน, สายน้ำตก ฯลฯ ไม่เพียงแต่ความเร็วเท่านั้น หากเราต้อง การสร้างภาพที่ใช้สปีดชัตเตอร์ช้าเช่นภาพ Motion Blur ก็ได้ ข้อสังเกตคือโหมดนี้เราปรับตั้งรูรับแสงเองไม่ได้ ดังนั้น จึงคุมช่วงความชัดลึกหรือชัดตื้นไม่ได้

เมื่อเลือกใช้โหมดนี้ในการถ่ายภาพให้ปรับที่วงล้อตั้งค่าหลัก ค่าตั้งของสปีดชัตเตอร์ก็จะเปลี่ยนไปตามที่เรา กำหนดและค่ารูรับแสงจะเปลี่ยนไปตามค่าตั้งของสปีดชัตเตอร์โดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ปริมาณแสงที่เหมาะสมกับ ภาพนั้นๆ




โหมด Av,A โหมดที่ตากล้องต้องเป็นผู้ปรับเลือกขนาดรูรับแสงเอง และกล้องจะปรับสปีด
ชัตเตอร์ที่เหมาะสมให้

พูดอีกอย่างก็คือเราเป็นผู้กำหนดปริมาณแสงที่จะเข้าสู่กล้อง อีกนัยหนึ่งก็คือคุมความชัดลึก-ชัดตื้นของภาพ ซึ่งถ้าหากยังไม่ค่อยเข้าใจ ลองอ่าน Turn Pro จาก TSD ในฉบับที่ 1 (มีแบบตัวอย่างให้ลองเล่นด้วย)

โหมดนี้จะเหมาะกับการถ่ายภาพหุ่นนิ่งหรือภาพที่มีเวลาปราณีตสักหน่อยเพราะต้องพิจารณาช่วงความชัด ด้วย เช่นการถ่ายภาพผลิตภัณฑ์, ถ่ายภาพบุคคล,ถ่ายภาพทิวทัศน์, ภาพสถาปัตยกรรม ฯลฯ ซึ่งเรากำหนดให้เป็น ภาพแบบหน้าชัดหลังเบลออันเป็นภาพยอดนิยมได้ง่าย

ข้อสังเกตคือ ที่โหมดนี้เราเลือกรูรับแสงเอง กล้องเลือกสปีดชัตเตอร์ให้ดังนั้นในขณะที่ปรับตั้งค่ารูรับแสง ให้ดู ที่ความเปลี่ยนแปลงของสปีดชัตเตอร์ด้วย เพราะในสภาพแสงน้อยหรือเลือกใช้รูรับแสงแคบๆสปีดชัตเตอร์จะถูกตั้ง ให้ช้าลง ซึ่งอาจจะช้าจนถือกล้องด้วยมือปกติไม่ได้ ถ่ายออกมาภาพก็สั่นไหวขาดความคมชัด เพราะกล้องจะคำนึง ถึงปริมาณแสงเพียงอย่างเดียว

No comments:

Post a Comment